วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554
This Application has failed to start because gdi.dll was not found
ไวร้ายไวรัสที่น่ารัก สร้างประสบการณ์สุดซึ้ง กับการแฝงตัวมาในรูปแบบ gdi.dll
ปัญหาชวนปวดหัว หลังจาก antivirus บนเครื่อง server windows 2003 ได้ลบ gdi.dll ไป
ทำให้ Windows server ผมเจ๊งทันทีที่ reboot เครื่อง เพราะมันไม่สามารถ login เข้า windows อีกได้เลย -_-" เพราะว่าwindows มันจะเด้ง lsass.exe error message มาว่า "This Application has failed to start because gdi.dll was not found" และมีเพียงปุ่ม OK เท่านั้นให้คลิก เมื่อเวลาที่เราคลิกแล้วก็ไม่เกิดผลอะไร แม้ว่าเราจะ reboot กี่ครั้งก็ตาม หรือเข้า Safe mode
จากปัญหานี้ ผมได้ลองไปค้นหาจากใน google มาก็แทบจะหาคำตอบที่น่าจะมาช่วยแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้เลย
เลยต้องมานั่งทบทวนปัญหาดูใหม่ว่าเราควรแก้ไขตรงจุดไหนกันแน่
สุดท้ายแล้ว สรุปประเด็นที่ lsass.exe นั้นมาพยายามเหลือเกินที่จะหาไฟล์ gdi.dll แต่!! มันไม่มีแล้ว
ดังนั้น จึงมีความเห็นว่า lsass.exe ที่เป็น keyword ในการแก้ไขปัญหา โดยคิดว่ามันน่าจะถูกเขียน code คำสั่งไว้ว่าให้ทำการเรียกไฟล์ gdi.dll ตัวนี้ ทุกครั้งก่อนเข้าหน้า login
วิธีแก้ไขก็ควรเป็นนำไฟล์ original ของ lsass.exe มาวางทับ เพื่อไม่ให้มัน run คำสั่งนี้อีก
ขั้นตอนการแก้ไข
1. boot เครื่องด้วยแผ่น windows PE หาใน google ได้ หรือไม่ก็ลองดูที่ link นี้ดู "http://forum.sabyezone.com/index.php?topic=6754.0"
2. เตรียม lsass.exe จาก c:\windows\system32\ จากเครื่อง windows server 2003 ที่ปกติ มาเก็บไว้ก่อน
3. เมื่อ boot เข้าหน้า windows PE เรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำไฟล์ lsass.exe ไปวางไว้ที่ c:\windows\system32 บนเครื่องที่เกิดปัญหา
4. reboot เครื่อง
หมายเหตุ กรณีที่ windows pe นั้นไม่สามารถมองเห็น hdd ที่ทำ raid ไว้ได้นั้น แก้ไขได้โดย ติดตั้ง driver raid ซะ ที่ตรงหน้า loading configulation ของ windows PE มันจะมีให้กด F6 เพื่อติดตั้ง driver ต่างๆ
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แล้ว ^v^
หลังจากนี้ไปก็ต้องทำการตรวจสอบสาเหตุที่เกิด และดูว่ามันมีรูโหว่ตรงไหนอีกบ้างที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น